นับว่าเป็นเกมที่มีผู้เล่นจำนวนมากให้การติดตามและมีประวัติศาสตร์กันมาอย่างยาวนานจนใกล้จะเข้าสู่โอกาสครบรอบ 40 ปีแล้ว ซึ่งเกมแต่ละเกมก็จะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน แต่ทุกเกมก็จะมีตัวเอกเป็น Link เหมือนกันหมด ซึ่งอีกไม่นานนี้ก็จะมีเกมภาคใหม่ออกวางจำหน่ายแล้ว ดังนั้นThisIsGame Thailandจึงไม่พลาดขอนำผลงานเกมซีรีส์ที่น่าสนใจมาฝากกันเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนใครด้วย แต่จะมีเกมอะไรบ้างลองมาติดตามกันเลย
1. The Legend of Zelda: The Minish Cap
เริ่มกันที่เกมเซลด้าภาคที่ได้รับการพัฒนาโดยทีมงาน CAPCOM บนเกมบอยแอดวานซ์ พูดถึงเรื่องราวการเดินทางของ Link ในดินแดนจิ๋วร่วมกับเจ้า Ezlo หมวกพูดได้ที่สามารถย่อขนาดของ Link สู่ไซส์มินิที่เล็กยิ่งกว่าหัวแม่โป้ง ตามหาพลังแห่งธาตุทั้งสี่เพื่อช่วยเหลือเจ้าหญิงจากคำสาปที่ทำให้เธอกลายเป็นหินโดยจอมมารสายลม Vaati ซึ่งเกมนี้ก็เป็นการปูเนื้อหาสู่ภาค Four Swords และ Four Swords Adventure ที่กำลังจะพูดถึงในข้อต่อๆ ไป
2. The Legend of Zelda: A Link to the Past
เกมภาคที่ปฏิวัติระบบ Zelda เป็นครั้งแรกด้วยการนำเสนอภาพสีสไตล์ 16-bit พร้อมกลับมาเป็นมุมกล้องแบบ Top-down โดยเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ Link ที่ได้ตื่นขึ้นมาในคืนหนึ่งและพบว่าคุณลุงของตัวเองได้หายตัวไปในช่วงกลางดึก ก่อนจะค้นพบว่าตัวเองเป็นทายาทคนสุดท้ายของอัศวินไฮรูล ซึ่งความน่าสนใจก็คือเกมนี้มีเรื่องราวเป็นภาคที่มีการเชื่อมโยงกับเนื้อหาหลายเกมมาก ตั้งแต่การเป็นเรื่องราวก่อนภาคต้นฉบับ และยังเป็นเกมที่มีไทม์ไลน์แยกมาจากภาค Ocarina of Time ในรูทที่ Link ไม่สามารถปราบ Ganon ได้ ส่วนกิมมิกภาคนี้ก็คือการย้อนเวลานั่นเอง
3. The Legend of Zelda: Ocarina of Time
แม่แบบของเกมแอคชั่นผจญภัยสามมิติ ตัวเกมมีการวางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่องเล่น Nintendo 64 ก่อนจะได้รับการพอร์ตและรีเมคใหม่มายังเครื่องเล่นหลายรุ่น เรื่องราวของเกมเกี่ยวข้องกับการเดินทางข้ามเวลาของ Link เพื่อช่วยเหลืออาณาจักร Hyrule ตามคำขอร้องของเจ้าหญิง Zelda ซึ่งได้รับคำชมจากสื่อวงการเกมรวมไปถึงเกมเมอร์ในฐานะหนึ่งในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว
4. Cadence of Hyrule: Crypt of the NecroDancer feat. The Legend of Zelda
การครอสโอเวอร์กันครั้งแรกระหว่างจักรวาลของสองเกม เนื้อเรื่องในภาคนี้ก็คือ Cadence หรือตัวละครจากเกม RPG สไตล์ดนตรีเคาะจังหวะภาคหลักจะถูกเรียกตัวไปสู่ดินแดน Hyrule เพื่อต่อกรกับเหล่าร้ายด้วยมนต์ขลังของเสียงเพลงจากเกม The Legends of Zelda ที่รีมิกซ์ใหม่กว่า 20 เพลง รูปแบบการเล่นก็คล้ายๆ กับภาคหลักนั่นก็คือผจญภัยไปตามจังหวะเพลงเหมือนเดิมแต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาก็คือเราสามารถเลือกเล่นเป็น Link และ Zelda ได้
5. The Legend of Zelda: Twilight Princess
เกมเซลด้าภาคนี้มาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามโดดเด่นมากด้วยงานภาพที่เน้นความสมจริง ผู้เล่นจะได้เดินทางในอาณาจักรไฮรูลที่กำลังเจอภัยคุกคามใหม่และต้องร่วมมือกับเจ้าหญิงแห่งแดนสนธยาต่อสู้กับปีศาจสีดำที่สร้างความวุ่นวาย กิมมิคพิเศษของเกมภาคนี้ก็คือผู้เล่นจะสามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าได้ในบางพื้นที่ ซึ่งจะมีปริศนาที่แตกต่างกันรวมไปถึงลักษณะการโจมตีที่ไม่เหมือนกัน
6. The Legend of Zelda: Link’s Awakening
เกมเซลด้าเวอร์ชั่นเกมบอยที่เนื้อหาไม่ได้เกิดขึ้นในอาณาจักร Hyrule แต่ว่าเป็นการผจญภัยของ Link ที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์เรือล่มจนพัดมาเกยตื้นที่เกาะ Koholint Island โดยเราจะพบกับสาวน้อยนักดนตรีอย่าง Marin ที่จะคอยช่วยเหลือ Link ไปตลอดการเดินทาง ปัจจุบันมีการวางจำหน่ายในรูปแบบรีเมคด้วยกราฟิกสามมิติสไตล์ดินน้ำมันบน Nintendo Switch พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ อาทิการรองรับ Amiibo หรือระบบออกแบบดันเจี้ยน
7. The Legend of Zelda: The Wind Wakerคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ภาคนี้เป็นเกมที่เปิดตัวมาโดยที่แฟนๆ เหวอกันเป็นแถบเพราะเปลี่ยนกราฟิกมาเป็นสไตล์การ์ตูนแทน ทั้งนี้เรื่องราวก็เข้มข้นน่าติดตามเหมือนเดิม บอกเล่าเรื่องราวของ Link ในไทม์ไลน์ที่โลกเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ขณะที่ปีศาจร้าย Ganondorf เองก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา Link ในฐานะทายาทของผู้ถูกเลือกจึงต้องออกเดินทางปราบปีศาจกันอีกครั้งพร้อมช่วยเหลือน้องสาวของตัวเองที่ถูกจับตัวไปโดยมีการร่วมมือกับ Tetra โจรสลัดสาวที่มีท่าทีแปลกๆ
8. The Legend of Zelda: Majora’s Mask
ภาคต่อของ Ocarina of Time ที่รอบนี้เน้นความดาร์กกว่าเดิมโดยมีการกล่าวขวัญว่าเป็นภาคที่เนื้อหาหนักที่สุดอีกภาคหนึ่งเลย ซึ่งเรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับ Link ที่ต้องเดินทางในเมืองแห่งนาฬิกาและต้องพยายามหาวิธีหยุดยั้งภัยพิบัติใหญ่ที่พระจันทร์ดวงยักษ์กำลังจะตกลงมาสู่โลกมนุษย์ เกมจะให้เวลาเราแค่เพียงสามวันในการเล่น และจะต้องทำการย้อนเวลาไปมาเรื่อยๆ
9. The Legend of Zelda: Four Swords Adventures
ภาคนี้ถือเป็นการต่อยอดจากเกมเสริมที่ชื่อว่า Four Swords บนเครื่องเล่นเกมบอยแอดวานซ์ ซึ่งเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Link ได้เจอกับเหตุการณ์ปริศนาที่ทำให้ตัวของเขาถูกแบ่งร่างออกมาเป็นสีสันต่างๆ รวม 4 สี ผู้เล่นสามารถเชื่อมต่อเครื่องเกมเพื่อเป็นจอยเล่นกันแบบ Co-op ได้ หรือถ้าเกิดว่าจะเล่นคนเดียวก็มีคำสั่งให้เราสลับตัวละครไปมาเพื่อแก้ปริศนา จัดท่าเดินแถวรูปแบบต่างๆ พร้อมไขคำตอบเรื่องราวของปีศาจแห่งสายลม
10. Hyrule Warriors
เกมแอ็กชันมุโซวที่ทีมงาน KOEI Tecmo ได้มาเป็นผู้พัฒนาหลัก เนื้อหาเกี่ยวข้องกับ Link ตัวเอกหลักที่เป็นอัศวินในคำทำนาย เดินทางเพื่อต่อกรกองทัพความมืดของ Cia ที่ร่วมมือกับเหล่าร้ายจากจักรวาลเกมต่างๆ โดยนอกเหนือจากเนื้อหาหลักยังมี Adventure Mode ที่เป็นภารกิจพิเศษปลดล็อกโบนัสต่างๆ อาทิ อาวุธ ตัวละคร หรือสกิน ซึ่งภายหลังมีการพัฒนาภาค Age of Calamity ที่บอกเล่าเรื่องราวก่อนเหตุการณ์ในภาค Breath of the Wild เช่นกัน
11. The Legend of Zelda
ขาดไม่ได้จริงๆ กับภาคต้นกำเนิดบนแฟมิคอม ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Link ที่ต้องค้นหาชิ้นส่วนของ Triforce ในตำนานเพื่อช่วยเหลือเจ้าหญิงจาก Ganon ตัวร้าย โดยมาพร้อมกับแผนที่ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความลับหรือดันเจี้ยนมากมาย พร้อมกับศัตรูหรืออุปสรรคตลอดเส้นทาง ว่ากันว่าเกมนี้ถือเป็นภาคเปิดตัวที่ทำให้เกิดวลีที่ว่าเกมเซลด้าหนึ่งดันเจี้ยนมีความยาวเท่าหนึ่งเกมเลย ปัจจุบันหาเล่นได้ทั้งบน Nintendo Switch ผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์ และยังมี Game & Watch รุ่นพิเศษผลิตมาจำหน่ายด้วย
12. The Legend of Zelda: Breath of the Wild / The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom
ปิดท้ายด้วยเกมที่เป็นมาตรฐานใหม่ของ Zelda อย่างแท้จริงกับการนำเสนอเกมเพลย์แบบโอเพนเวิลด์เต็มตัวครั้งแรก บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของ Link อดีตอัศวินองครักษ์ที่สูญเสียความทรงจำเนื่องจากเหตุสงครามในอาณาจักร Hyrule ที่ทำให้ทางราชวงศ์ต้องสั่งขนร่างเขาไปซ่อนไว้เพื่อรอให้ Link ได้ฟื้นกลับมาขจัดภัยคุกคามจาก Ganon อีกครั้ง โดยเนื้อเรื่องจะเกิดขึ้นใน Timeline ที่สร้างขึ้นมาแยกจากเกมภาคก่อนๆ และในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ก็กำลังจะมีการวางจำหน่ายภาคใหม่อย่าง Tears of the Kingdom ด้วย ห้ามพลาดนะ!
เรียกได้ว่ามีครบทุกสไตล์เกมกันเลย หากใครสนใจก็ไปตามหากันเล่นได้บนเครื่องเล่นเครือ Nintendo โดยหลายเกมก็ได้รับการพอร์ตหรือรีมาสเตอร์สู่ Nintendo Switch แล้วเหมือนกัน อย่างไรก็ตามตอนนี้ThisIsGame Thailandขอตัวไปเตรียมตัวก่อนเล่นภาค Tears of the Kingdom ก่อนก็แล้วกัน ส่วนโอกาสหน้าจะมีอะไรมาแบ่งปันอีกนั้น ขอเชิญติดตามได้ที่นี่เช่นเคยครับผม